เคล็ดลับแบบ Quick & Easy ในการดีไซน์และจัดการกับพื้นที่ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่นของคุณ
หลาย ๆ ครั้ง เมื่อคุณต้องการอัพเดทดีไซน์พื้นที่เดิมในบ้านของคุณ ก็อาจเกิดอาการคิดไม่ตกว่าพื้นที่ ๆ
ที่เคยใช้อยู่ทุกวัน จะถูกเปลี่ยนให้ดีขึ้น สวยขึ้น หรือโดนใจมากขึ้นได้อย่างไร เพราะเพียงการเปลี่ยน
เฟอร์นิเจอร์ชุดเก่าออกไปนั้นไม่อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน
มาเริ่มกันเลย!
เคล็ดลับในการออกแบบพื้นที่ห้องนอน
1. วางแผนผังตกแต่งห้องให้ง่ายเข้าไว้
โฟกัสการออกแบบตกแต่งไปที่จุดใดจุดหนึ่งของห้อง ทำให้รู้สึกเป็นระเบียบ ไม่กระจัดกระจาย
2. พุ่งเป้าความสนใจไปยังวิวด้านนอก
ห้องนอนจะน่านอนมากยิ่งขึ้น หากมีวิวสวย ๆ ให้เห็นจากด้านนอกที่เป็นจุดแรกที่สัมผัสได้เมื่อเดินเข้ามาในห้อง
3. ความเป็นส่วนตัวคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
พื้นที่ในการนอนควรให้ความรู้สึกที่สงบ และมีความเป็นส่วนตัว ทั้งยังโปร่งเบา ไม่อึดอัด ซึ่งหากมีการดีไซน์ที่ดี คุณจะสามารถเปิดประตูห้องนอนทิ้งไว้ได้ โดยไม่รู้สึกสูญเสียความเป็นส่วนตัวไป
4. เชื่อมโยงพื้นที่ภายในบ้านและนอกบ้านให้กลมกลืน
วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้กับทุกพื้นที่หรือสภาพอากาศ แต่หากทำได้ ก็จะทำให้พื้นที่โดยรวมดูกว้างขึ้น และได้รับแสงธรรมชาติมากขึ้น
5. ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากันกับธีมห้องนอน
สถาปนิกควรออกแบบห้องนอนของคุณ โดยอิงจากรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ควรต้องการเลือกใช้
6. เพิ่มแสงสว่างและการระบายอากาศ
การวางเตียงไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง จะช่วยให้อากาศไหลเวียนผ่านห้องได้ดีขึ้น และได้รับแสงธรรมชาติที่ไม่แรงจนเกินไป
7. ไม่ต้องรีบตัดสินใจ เลือกทุกอย่างให้ถูกใจคุณก่อน
งานดีไซน์ที่ดี จะต้องผ่านการวางแผนที่รอบคอบก่อนการตัดสินใจ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ ให้เวลาตัวเองในการอีกองค์ประกอบอย่างถี่ถ้วนก่อนเริ่มการตกแต่ง
เคล็ดลับการออกแบบพื้นที่ห้องนั่งเล่น
1. เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับพื้นที่
มองพื้นที่ที่คุณมีอยู่ด้วยความเป็นกลาง เพื่อที่คุณจะได้เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ “ตรง” ตามความต้องการทั้งในแง่ของขนาดและรูปแบบ และมีประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง
2. หาจุดเด่นให้กับพื้นที่
หาจุดของพื้นที่ห้อง ซึ่งเป็นจุดแรกที่ใครก็ตามที่เดินเข้ามาในห้องจะห้องเห็นเป็นอันดับแรก แล้วตกแต่งพื้นที่บริเวณนั้นให้ดึงดูดความสนใจ เช่น การใช้เตาผิงเป็นจุดเด่นในห้อง อาจช่วยให้ความรู้สึกโดยรวมดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น
3. เลือกโทนสีเพื่อเป็นธีมในการตกแต่งทั่วทั้งบริเวณ
โทนสีที่เหมาะสม จะช่วยสร้างความรู้สึกน่าอยู่ และการเป็นพื้นที่สำหรับการผ่อนคลายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
4. ของตกแต่ง รวมถึงเครื่องใช้ที่สวยงาม และใช้งานได้จริง
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ของใช้และของตกแต่งที่สวยงาม และต้องใช้งานได้จริง เพื่อประโยชน์สูงสุดและตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณ
5. ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้แสงสว่างในบริเวณห้อง
เมื่อคุณรู้สไตล์ในการตกแต่งพื้นที่ห้องนั่งเล่นแล้ว สิ่งต่อมาที่สำคัญคือการตรวจสอบว่าห้องนั่งเล่นของคุณ ต้องการปริมาณแสงมากน้อยเพียงใด และพื้นที่ห้องจะได้รับแสงสว่างจากแหล่งใดบ้าง โดยเราแนะนำให้เลือกใช้แสงสว่างจากทั้งจากโคมไฟ แสงจากดาวนืไลท์ รวมถึงแสงธรรมชาติ เพื่อที่จะทำให้ ธีมการตกแต่งออกมาสมบูรณ์แบบ
เคล็ดลับในการออกแบบพื้นที่ห้องน้ำ
1. สร้างความเชื่อมโยงให้กับพื้นที่ห้องนอนและห้องน้ำ
2. ออกแบบพื้นที่ สำหรับการใช้งานที่เฉพาะเจาะลง
ออกแบบพื้นที่ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อความสะดวกและปลอดภัย (แยกพื้นที่เปียกและแห้งออกจากกัน) เช่นพื้นที่ในการล้างมือ อาบน้ำ หรือบริเวณโถสุขภัณฑ์
3. ห้องน้ำควรแยกออกจากห้องนอน (และใช้การออกแบบเพื่อเชื่อมสองพื้นที่เข้าด้วยกัน)
4. เลือกใช้อุปกรณ์และวัสดุตกแต่งที่เหมาะสม
เลือกใช้วัสดุ และการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่คงที่ให้เข้ากีบธึมงานตกแต่งที่เลือก
5. ขนาดของเฟอร์นิเจอร์ ต้องสัมพันธ์กับขนาดของพื้นที่
เลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่มี ไม่ใหญ่จนอึดอัด หรือเล็กจนทำให้เกิดพื้นที่ว่างมากเกินไป
เคล็ดลับในการออกแบบพื้นที่ห้องรับประทานอาหาร
1. เลือกวัตถุประสงค์และความถี่ในการใช้งานพื้นที่ให้ชัดเจน
สำหรับพื้นที่ส่วนนี้ สิ่งที่สำคัญคือการตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้ใช้งาน และมีความถี่ในการใช้พื้นที่มากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะได้เลือกการวางแผนผังของห้อง เฟอร์นิเจอร์และโทนสีได้
2. ออกแบบพื้นที่ให้มีแสงสว่างให้มากเข้าไว้
เนื่องจากแสงสว่างเป็นสิ่งที่สำคัญมากในพื้นที่นี้ คุณจึงควรวางแผนเรื่องการวางจุดที่ให้แสงสว่างของห้องไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
3. เลือกโทนสีที่เหมาะสมกับพื้นที่
ห้องรับประทานอาหาร มักเป็นพื้นที่ที่ถูกใช้ในการรับรองแขก หรือจัดงานสังสรรค์รื่นเริง จึงควรเลือกใช้สีที่จะช่วยเพิ่มสดใสและตื่นตัวให้กับพื้นที่นี้
4. เลือกใช้วอลเปเปอร์ที่มีลวดลาย
หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกการตกแต่งผนังแบบอื่นที่ไม่ใช่สีสำหรับทาผนัง วอลเปเปอร์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเพิ่มดีเทลและสีสันให้กับห้องได้เช่นกัน
5. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับการรับประทานอาหาร
สไตล์ของเฟอรืนิเจอร์สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารนั้น คือองค์ประกอบหลักของพื้นที่ ซึ่งก็คือโต๊ะและเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหารนั่นเอง ดังนั้นควรมีการเลือกที่ละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะเรื่องของขนาด รูปทรง และความสูงของเฟอร์นิเจอน์นั้น ๆ เพื่อให้พื้นที่ดดยรวมเกิดความสมดุล
6. การเลือกรูปแบบในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์
สำหรับการออกแบบพื้นที่รับประทานอาหารที่มีขนาดไม่กว้างนัก เราแนะนำในจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง แล้วเลือกใช้โต๊ะทรงกลมและเก้าอี้ที่เข้าคู่กัน ควบคู่ไปกับเฟอร์นิเจอร์สำหรับนั่งแบบบิ้วท์อิน เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสูงสุด
“ส่วนห้องที่มีพื้นที่มากพอ สาสมารถจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารไว้กลางห้อง แล้วใช้ชั้นหนังสือ หรือชั้นวางของที่มุมห้องในการตกแต่ง และเก็บอุปกรณ์ในการรับประทานอาหารได้ด้วย
7. เพิ่มความนุ่มนวลให้พื้นที่ด้วยพรมตกแต่งขนาดใหญ่
การใช้พรมเพื่อการตกแต่งพื้นที่นั้น เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพื้นผิว ลวดลายและสีสันให้กับห้อง แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกขนาดโต๊ะอาหารและเนื้อผ้าของพรม หลีกเลี่ยงพรมเนื้อหนาหรือนุ่มฟูที่เสี่ยงต่อการเปื้อนและซักยาก เพราะห้องรับประทานอาหารมีการกระเด็นของอาหารและเครื่องดื่มอยู่เสมอ
และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับที่เรานำมาฝากคุณ ซึ่งเคล็โลับที่ทำตามได้ง่ายเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตกแต่งพื้นที่เดิมที่มีอยู่ ให้กลายเป็นพื้นที่ใหม่หรือได้ความรู้สึกใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาโปรเจคการตกแต่งที่มีรายละเอียดและความแม่นยำมากกว่าเดิมล่ะก็ ติดต่อเราที่ Beyond Decor เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบตกแต่งภายในได้เลย!