งานออกแบบภายในเพื่อพื้นที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์สำหรับการให้เช่า
การออกแบบตกแต่งภายในให้เหมาะสมกับประเภทของอสังหาริมทรัพย์หรือพื้นที่เพื่อการให้เช่านั้น
เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจให้เช่าของคุณประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
ไม่ว่าจะเป็นการหาลูกค้าที่เหมาะสม การตั้งราคา การออกแบบเพื่อลดการบำรุงรักษา
หรือการสร้างเพื่อมุ่งเน้นความยั่งยืนที่มากขึ้น
เมื่อพูดถึงการออกแบบตกแต่งภายในให้เหมาะสมสำหรับการใช้เป็นที่พักทั้งแบบระยะสั้นและยาวแล้วนั้น มีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนเริ่มลงมือทำ
คุณอาจมีอสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้เช่าระยะยาว
ที่พักสำหรับการพักผ่อนในวันหยุดหรือสำหรับนักเรียนหรือคนวัยทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใด
การตกแต่งพื้นที่ด้วยสไตล์และสิ่งอำนวยสะดวกที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญ
รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยที่ผู้เช่าของคุณคาดหวังว่าจะได้รับหรือได้เห็นอีกด้วย
ในบทความนี้
เราจะช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการคิดที่ต้องมีเมื่อต้องคิดถึงโปรเจคอสังหาริมทรัพย์ของคุณอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ว่าคุณจะกำลังเริ่มโครงการใหม่หรือกำลังปรับปรุงสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ก็ตาม
NOBLE BE33 @ BTS Phrom Phong A.K.A. Japan Town
การเลือกสีและธีมของพื้นที่ให้ถูกต้อง
เรื่องแรกที่คุณจะต้องตัดสินใจคือการใช้สีและธีมที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นในพื้นที่
สีและธีมนั้นมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้เช่าว่าจะเลือกใช้อสังหาริมทรัพย์ยูนิตนี้ของคุณหรือไม่
ความพึงพอใจของลูกค้าว่าจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงการรีวิว
บอกต่อและกลับมาใช้บริการใหม่อีกด้วย
สไตล์และธีมของงานตกแต่งภายใน
มีผลกระทบโดยตรงต่อการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ของคุณ
การตกแต่งพื้นที่ในรูปแบบที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการมากที่สุด
จะทำให้พื้นที่ของคุณถูกเลือกใช้บริการมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการทำสัญญาเช่าหรือการใช้ระยะสั้น
เมื่อคุณใช้งานตกแต่งเพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการได้แล้วละก็
คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าลูกค้าจะกลับมาใช้บริการซ้ำและมีการบอกต่ออย่างแน่นอน
เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้
คุณต้องเข้าใจกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการดึงดูดเข้ามาอย่างแท้จริงเสียก่อน
แล้วจึงจะเริ่มจับคู่ธีมงานตกแต่งและโทนสีให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้
เราขอให้คุณลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า ลูกค้าของคุณจะเข้าพักในที่พักนี้เพื่อจุดประสงค์ใด
เพื่อการอยู่อาศัย การพักผ่อน การทำงาน
หรือเพื่อการสังสรรค์และให้รางวัลแก่ตัวของพวกเขาเอง? เมื่อคุณรู้ข้อมูลในจุดนี้แล้ว
จึงปรับสไตล์ในงานตกแต่งเพื่อสร้างความรู้สึกและสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น คุณควรพิจารณาช่วงอายุ และคุณลักษณะทั่วไปของลูกค้าอีกด้วย
และจะดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าคุณรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณอายุเท่าไหร่ ทำงานในสายงานแบบใด
และโครงสร้าบริษัทนั้น ๆ เป็นอย่างไร
สิ่งเหล่านี้จะช่วยในคุณสามารถเลือกสไตล์งานตกแต่งที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของคุณ
และตรงตามงบประมาณที่พวกเขามีได้
สิ่งที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นอาจดูเหมือนเป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่บ่อยครั้ง
ข้อมูลเหล่านี้กลับถูกมองข้ามไป จำไว้ว่าคุณกำลังออกแบบพื้นที่ให้กับลูกค้า ไม่ใช่สำหรับตัวเอง
(หลาย ๆ คนพลาดจุดนี้ไปจริง ๆ) คุณอาจมีสไตล์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แต่คุณต้องไม่เอาจุดนี้มาตัดสินงานออกแบบที่จะถูกทำขึ้นเพียงเพราะคุณคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ดังนั้น คุณจะต้องความสมดุลที่ถูกต้องของความชอบส่วนตัว
และองค์รวมของธีมงานตกแต่งให้เจอ (เช่น
การเลือกใช้โคมไฟที่คุณชอบมาตกแต่งพื้นที่โดยไม่กระทบกับงานตกแต่งโดยรวม เป็นต้น)
PARK 24 SHOWROOM (STUDIO) @ BTS Phrom Phong A.K.A. EM-District
สไตล์ที่ไม่มีวันล้าสมัย & ความคงทนของวัสดุในงานตกแต่ง
การมีพื้นที่ที่ถูกออกแบบตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบที่พร้อมรับลูกค้านั้นเป็นเรื่องหนึ่ง
แต่การที่จะทำให้งานดีไซน์ยังคงเสน่ห์และความสวยงามเอาไว้ได้ตามเวลาที่ผ่านไปแล้วนั้นกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อเริ่มงานตกแต่งคือ
สไตล์งานตกแต่งที่คุณเลือกนั้นจะยังคงความร่วมสมัยได้นานแค่ไหน
และการปรับปรุงพื้นที่ในภายหลังจะส่งผลต่อภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์อย่างไร เช่น
ประติมากรรมตกแต่งชิ้นหลักภายในห้องที่ทำให้เกิดความว้าวในตอนแรก
จะสามารถคงความรู้สึกแบบนั้นไปได้ตลอดไหม และหากคุณนำของตกแต่งชิ้นนี้ออกไป
ธีมโดยรวมของห้องจะได้รับผลกระทบหรือไม่?
เป็นที่ทราบกันดีว่าพื้นที่ให้เช่านั้นจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ไม่ดีเท่ากับบ้านพักอาศัย
ดังนั้นคุณสามารถคาดการณ์ไว้ได้เลยว่า
แขกมากมายที่จะเข้ามาพักในที่พักของคุณจะไม่ได้ใส่ใจดูแลพื้นที่ที่ไม่ใช่ของพวกเขาเองอย่างแน่
นอน
คุณควรเลือกลงทุนกับการตกแต่งพื้นที่ด้วยวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน
แม้ว่ามันจะใช้งบมากกว่าในตอนต้นโปรเจค ขอให้คุณเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ผ้า
หรือแม้แต่วัสดุปูพื้นที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับธีมตกแต่งที่คุณเลือก
รวมถึงเตรียมแบ่งงบประมาณไว้ส่วนหนึ่งสำหรับการซ่อมบำรุงในอนาคตเอาไว้โดยไม่ใช้ของที่คุณภาพด้อยลงกว่าเดิมหรือไม่คงทนเหมือนเดิมเด็ดขาด
การทำโปรเจคด้วยแนวคิดนี้จะทำให้คุณสามารถคงคุณภาพของงานดีไซน์ไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งแขกที่เข้าพักจะสามารถรู้สึกถึงคุณภาพนี้ได้เช่นเดียวกัน
สิ่งที่ลูกค้าต้องการ และสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมี
หลังจากที่คุณวางธีมของโปรเจคออกมาได้แล้ว
สิ่งต่อมาที่ต้องคำนึงถึงคือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่คุณจะต้องเตรียมไว้ให้ลูกค้าของคุณ
ความพอดีคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกใจเมื่อได้เข้าพักในที่พักของคุณ
แน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานสำหรับที่พักแบบให้เช่านั้นต้องมีพร้อมอยู่เสมอ
จำไว้ว่าลูกค้าที่เข้าพักนั้นคาดหวังว่าจะเห็นสิ่งเหล่านี้ทุกครั้ง(แม้พวกเขาจะไม่ได้ใช้มันก็ตาม)
ไม่อย่างนั้นแล้วคุณอาจได้รับรีวิวที่พักที่ไม่น่าพอใจนัก ลองใช้เวลาเพื่อดูว่าแขกที่จะเข้าพักนั้น
เลือกเข้าพักในที่พักของคุณด้วยวัตถุประสงค์ใด เพื่อมาทำงาน พักผ่อน หรือสังสรรค์
เมื่อทราบแล้วจึงเพิ่มสิ่งที่จำเป็นที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ๆ ลงไปในงานดีไซน์ด้วย
อย่างไรก็ดี จากที่ได้พูดไว้ในตอนต้นว่าบาลานซ์คือกุญแจที่สำคัญ
ไม่น้อยไปและก็ไม่มากจนเกินไปจึงจะดี
การมีสิ่งอำนวยความสะดวกี่มากเกินความจำเป็นจะกลายเป็นต้นทุนสูญเสีย
แต่ถ้ามีน้อยไปก็จะทำให้แขกที่เข้าพักรู้สึกไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
สิ่งเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้และเราแนะนำให้เจ้าของโปรเจคเริ่มศึกษาเรื่องเหล่านี้ไว้แต่เนิ่น ๆ
เน้นเรื่องการใช้วัสดุที่มีคุณภาพเข้าไว้
สิ่งนี้จะทำให้ลูกค้ารู้ว่าคุณใส่ใจและเข้าใจความต้องการของพวกเขา
ที่พักราคาประหยัดเช่นที่พักนักศึกษา ที่เน้นความคุ้มค่าและทนทาน
ย่อมให้ความรู้สึกแตกต่างกับที่พักที่มีระดับเช่นบ้านพักหรือห้องเช่าสำหรับการพักผ่อนตากอากาศเพื่อผู้บริหาร ซึ่งเรียกหาประสบการณ์ที่มากยิ่งขึ้นไปกว่านั้นอย่างแน่นอน
ดังนั้น
การรู้จักกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการอย่างทะลุปรุโปร่งจะช่วยให้คุณสามารถเลือกแนวและสไตล์ในงาน
ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การเพิ่มองค์ประกอบเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
สิ่งสุดท้ายที่คุณควรพิจารณาคือเรื่องของความยั่งยืน
และการที่จะทำให้พักของคุณเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจและความสำคัญมากขึ้นในทุก ๆ ช่วงกลุ่มอายุ
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ดีในการจ้างออกแบบตกแต่งภายในที่เชี่ยวชาญเพื่อช่วยคุณแก้ปัญหาในเรื่องนี้
การจัดการสิ่งต่าง ๆ เพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอาจเริ่มจากสิ่งง่าย ๆ
อย่างการลดปริมาณพลังงานที่ใช้และขยะที่ธุรกิจของคุณสร้างขึ้น
ซึ่งถ้าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องการทำอยู่แล้ว สิ่งที่ควรทำคือการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน
และเลือกวัสดุในการตกแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในที่พักสำหรับธุรกิจของคุณ
การเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ นี้
สามารถเป็นจุดต่อขยายของระบบธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่กว้างมากขึ้นได้ในอนาคต
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่เป็นทุนเดิม
หรือต้องการดึงดูดกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเข้ามาในธุรกิจของคุณก็ตาม
การเพิ่มอง์ประกอบในงานตกแต่งที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม
จะสามารถทำให้คุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง และเพิ่มปริมาณลูกค้าของคุณได้
บทส่งท้าย
ที่พักนั้นมีความแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่
ไม่ว่าจะเป็นสไตล์งานตกแต่งที่อาจไล่ตั้งแต่แบบโมเดิร์นที่โดดเด่นไปจนถึงแบบคลาสสิคที่เย้ายวน
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์แบบใด
ก็ย่อมต้องอาศัยทักษะในงานตกแต่งในระนาวเดียวกันทั้งสิ้นเพื่อให้ผลลัพธ์ออกาดีที่สุด
ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นประเภทใด มีงบประมาณแค่ไหน หรือสถานที่ตั้งของที่พักอยู่ตรงไหน
คุณต้องเข้าใจกลุ่มลูกค้าที่คุณเลือก
สิ่งที่พวกเขาต้องการและคาดหวังว่าจะได้รับจากการเข้าพักในที่พักของคุณ
การพิจารณานี้เป็นใช้ข้อมูลและความต้องการลูกค้าเป็นตัวตีกรอบเมื่อเริ่มพัฒนาโปรเจค
งานออกแบบของคุณ
เพื่อช่วยให้คุณพบความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการโชว์สไตล์ส่วนตัวของคุณกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา
สุดท้ายนี้ คุณควรคิดถึงงานออกแบบภายในและผลลัพธ์ของมันในระยะยาวด้วย
การออกแบบเพื่อความว้าวตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นนั้นก็สำคัญ แต่อย่าลืมบวกความคงทน คุ้มราคา
และความสะดวกในการซ่อมแซมปรับปรุงในอนาคต รวมไปถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมลงไปด้วย
ลองทำตามกฎต่าง ๆ ที่เราได้นำเสนอไปในข้างต้น
ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถนำการออกแบบที่สมบูรณ์มาใช้เพื่อการดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน
