ทำไมนักออกแบบภายในถึงให้ความสำคัญกับรายละเอียดของงานตกแต่งมากขนาดนี้กันนะ?
คุณอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ปีศาจซ่อนอยู่ในรายละเอียด” มาก่อน
แต่สำหรับนักออกแบบแล้ว สุภาษิตประจำใจของพวกเขาคือ “พระเจ้าซ่อนอยู่ในรายละเอียด”
เหตุผลน่ะหรือ? ก็เพราะว่าการเป็นนักออกแบบภายในที่ดี คือการจัดวางและเลือกใช้รายละเอียดต่าง
ๆ ของงานตกแต่งให้ถูกต้องยังไงล่ะ
แล้วรายละเอียดในงานตกแต่งเหล่านี้คืออะไร? องค์ประกอบหรือสิ่งของต่าง ๆ ในห้อง ๆ
หนึ่งสามารถถูกเรียกว่าเป็นรายละเอียดในงานตกแต่งได้ทั้งสิ้น หากจะพูดให้กว้างขึ้นมาสักนิด
รายละเอียดของงานตกแต่ง คือการบรรจุความใส่ใจลงไปในสิ่งของแต่ละอย่าง
ว่าสิ่งเหล่านั้นมีการตกแต่ง ผิวสัมผัส ลวดลายอย่างไร
หรือแม้กระทั่งการดูในรายละเอียดลงไปว่าสิ่งนั้น ๆ มีการผสมผสานกับพื้นผิวอื่น ๆ อย่างไร
ซึ่งสิ่งเล็ก ๆ ต่าง ๆ เหล่านี้
จะหลอมรวมเข้าเป็นรายละเอียดขององค์ประกอบในงานตกแต่งทุกส่วนของห้องนั้น ๆ
อย่างมีนัยยะสำคัญเลยทีเดียว
เราสามารถใส่รายละเอียดลงไปในอะไรได้บ้าง? คำตอบคือ สิ่งไหนก็ได้ที่คุณต้องการ!
กระเบื้องปูพื้นอาจถูกตกแต่งด้วยลวดลายรูปแบบต่าง ๆ
หรือมีการออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะเพื่อให้กลมกลืนไปกับองค์ประกอบอื่น ๆ ในห้อง
การเพิ่มลวดลายบนพรม แม้แต่พื้นไม้ก็สามารถถูกออกแบบให้มีลวดลายต่าง ๆ เพื่อเพิมมิติได้
ไม่เพียงเท่านั้น เฟอร์นิเจอร์ที่นั่งอาจมีการตกแต่งลวดลายบนเบาะ
เสริมเม็ดกระดุมหรือลวดลายของผ้าลูกฟูก นอกจากนี้ รายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ในห้องอย่างคิ้วบัว
ฝ้าเพดานและงานไม้ ก็สามารถเพิ่มรายละเอียดลงไปได้ทั้งสิ้น
ส่วนการเลือกใช้สีก็ถือเป็นหนึ่งในรายละเอียดของงานตกแต่งเช่นกัน
จะเห็นได้ว่ารายละเอียดในงานออกแบบมีอยู่ในทุกพื้นที่ ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเห็นห้อง ๆ
หนึ่งที่ตกแต่งเรียบ ๆ จนดูเหมือนไร้การตกแต่งแต่กลับไม่ดูขัดสายตา
ขอให้ทราบว่าเจ้าของผลงานนั้นตั้งใจใส่รายละเอียดต่าง ๆ
ลงไปอย่างดีแล้วเพื่อให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมานั่นเอง
รายละเอียดในงานตกแต่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเป็นอย่างมากว่านักตกแต่งภายในนั้นมีความเชี่ยวชาญหรือไม่ อาจพูดได้ว่างานของนักตกแต่งภายในนั้น
มีความคล้ายกับช่างตัดเสื้อสูทหรือชุดกระโปรง แล้วอะไรกันที่เป็นตัวบ่งบอกว่าชุด ๆ
นั้นเป็นผลงานที่ดี? ชนิดของเนื้อผ้าและรายละเอียดต่าง ๆ ที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ชุดนั้นนั่นเอง
คราวหน้า เมื่อคุณเดินเข้าไปให้ห้องใดห้องหนึ่ง ลองสังเกตรายละเอียดต่าง ๆ ในพื้นที่นั้นดูสิ
ดูความเชื่อมต่อกันของผนังห้อง พื้นห้องและฝ้าเพดานว่าเป็นอย่างไร และสำรวจรายละเอียดต่าง ๆ
ที่อยู่ในเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ รายละเอียดเหล่านี้
คือสิ่งที่ทำให้งานดีไซน์ธรรมดา แตกต่างจากงานดีไซน์ที่ทรงพลังอย่างเทียบไม่ติด
ในฐานะนักออกแบบ เรายึดถือความต้องการของลูกค้าเป็นอันดับแรก
เพราะคุณคือผู้สร้างสรรค์พื้นที่ที่แท้จริง ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับทุก ๆ รายละเอียด
เพื่อที่จะยกระดับพื้นที่ของคุณจากดีอยู่แล้ว เป็นว้าวสุด ๆ ได้นั้นเอง